การออกกำลังกายประเภทใดดีที่สุด

การออกกำลังกาย อย่างที่เรานั้นรู้กันดีนั้นการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างสุขภาพที่ดี แต่การออกกำลังกายนั้นก็มีมากมายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคาดิโอหรือเวทเทรนนิ่งและแม้ว่าจะมีรูปแบบการออกกำลังกายที่ไม่รู้จบ แต่ผู้เชี่ยวชาญแบ่งประเภทกิจกรรมทางกายออกเป็น 4 ประเภทกว้างๆ

โดยพิจารณาจากสิ่งที่ร่างกายเรียกร้องให้ทำและประโยชน์ที่ร่างกายเคลื่อนไหว ซึ่งการออกกำลังกายแต่ละประเภทนั้นก็ให้ประโยชน์กับร่างกายในส่วนต่างๆแตกต่างกันออกไป

 

เริ่มจากการออกกำลังกายแบบแอโรบิกนั้นมีอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น แม้ว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิก

ส่วนใหญ่กำหนดให้คุณต้องเคลื่อนไหวร่างกายทั้งหมด แต่จุดสนใจหลักอยู่ที่หัวใจและปอด (มักเรียกการออกกำลังกายแบบแอโรบิกว่า “คาร์ดิโอ” เพราะมันท้าทายและเป็นประโยชน์ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดของคุณ) กิจกรรมต่างๆ เช่น การเดิน ว่ายน้ำ เต้นรำ และปั่นจักรยาน หากทำอย่างเข้มข้นเพียงพอ จะทำให้คุณหายใจเร็วขึ้น  ถ่านเครื่องช่วยฟัง    และหัวใจทำงานหนักขึ้น

ออกกำลังกายแบบแอโรบิค เผาผลาญไขมัน ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ลดการอักเสบ และลดน้ำตาลในเลือดและช่วยทำให้การนอนหลับและพักผ่อนนั้นสามารถทำได้อย่างมีประเสิทธิภาพด้วย เพราะการออกกำลังกายในบักษณะนี้นั้นมักจะให้ความเหนื่อยและการหลั่งของอะลีนนาลีนอย่างมาก

การฝึกความแข็งแกร่ง บางครั้งเรียกว่าการฝึกด้วยแรงต้าน ควรทำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ สควอท ลันจ์ วิดพื้น และการออกกำลังกายโดยใช้เครื่องต้านแรงต้าน หรือการใช้น้ำหนักหรือสายรัดจะช่วยรักษาและสร้างมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง การฝึกความแข็งแรงยังช่วยป้องกันการหกล้ม รักษากระดูกให้แข็งแรง ลดระดับน้ำตาลในเลือด

และเพิ่มความสมดุล ทำแบบฝึกหัดทั้งแบบไอโซเมตริกและไอโซโทนิกร่วมกัน การออกกำลังกายแบบไอโซเมตริก เช่น การเล่นแพลงก์และยกขาค้างไว้

จะทำโดยไม่มีการเคลื่อนไหว เหมาะสำหรับการรักษาความแข็งแรงและปรับปรุงเสถียรภาพ การออกกำลังกายแบบไอโซโทนิกทำให้คุณต้องแบกน้ำหนักตลอดช่วงการเคลื่อนไหว Bicep curls, bench press และ sit-ups เป็นการออกกำลังกายแบบไอโซโทนิกทุกรูปแบบ

การออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อช่วยให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นของคุณมีความยืดหยุ่น รักษาท่าทางของคุณ และปรับปรุงการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณอายุมากขึ้น การยืดสามารถทำได้ทุกวัน รวมถึงการฝึกการทรงตัวต้องอาศัยระบบต่างๆ ที่ช่วยให้คุณตั้งตรงและมีสมาธิ เช่น หูชั้นใน การมองเห็น กล้ามเนื้อและข้อต่อ ไทเก็กและโยคะเป็นรูปแบบที่ดีของการออกกำลังกายที่สามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการหกล้มและอยู่อย่างอิสระจนถึงปีสุดท้ายของคุณ